
ผลิตภัณฑ์ คังเซน เคนโก เนเจอรัล หลิงจือ (Kangzen Kenko : Natural Ling Zhi)
คังเซน เนเจอรัล หลิงจือ Kangzen Natural Lıng Zhı
สกัดจาก เห็ดหลิงจือบริสุทธิ์ในรูปแบบแคปซูล ผ่านกรรมวิธีการ ผลิตจากโรงงาน หมิงทงเภสัชกรรม (Mıntong Pharmaceutıcal Co.,Ltd.) (GMP) มณฑลไต้หวัน ด้วยแนวทางแห่งชีวิตแนววิทยาศาสตร์ย้อนสู่ธรรมชาติ ภายใต้การควบคุมคุณภาพอย่างใกล้ชิด
เห็ดหลิงจือ เป็นเห็ดที่มีคุณค่าที่สุดในการบำรุงรักษาสุขภาพร่างกาย โดยมีสรรพคุณต่างๆ มากมาย เช่น ป้องกันตับ, แก้ปวด, บำรุงหัวใจ, การปรับความดัน, เสริมระบบภูมิคุ้มกันโรค, ควบคุมมะเร็ง, แก้แพ้, ลดไขมันในเส้นเลือด, ลดน้ำตาลในเลือด, ลดการอักเสบ, สร้างโปรตีน, ป้องกันรังสี และอื่นๆ
** ได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนโบราณเลขทะเบียนที่ K 18/50 ฆท. 627/2548
วิธีรับ ประทาน : ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น
ปฏิกิริยาที่อาจ เกิดขึ้นเมื่อรับประทานเห็ดหลินจือ
สำหรับผู้ที่เริ่มรับประทานเห็ดหลินจือใหม่ๆ อาจจะรู้สึกมึนศีรษะ ปวดเมื่อตามร่างกาย และผิวหนังอาจเกิดอาการคันได้ หรือปัสสาวะบ่อย ซึ่งเป็นปฏิกิริยาการสะท้อนกลับที่ดี อันเป็นเรื่องปรกติของการบำบัดรักษาด้วยยาแผนโบราณ เมื่อรับประทานแล้ว จะไปบำบัดรักษาโดยการชำระล้างสิ่งที่เป็นพิษภายในร่างกายให้สลายหรือเคลื่อน ย้าย และถ่ายออกจากร่างกาย
เหตุใดจึงรับประทาน เห็ดหลิงจือแล้วไม่ได้ผล
ไม่มีการกำหนดเวลา และจำนวนการกินที่แน่นอน ปริมาณไม่เพียงพอ เกิดอาการข้าง เคียงแล้วไม่ยอมรับประทานต่อ
ไม่ปรับการรับ ประทานอาหาร การออกกำลังกายให้สมดุล มีอาการป่วย เรื้อรัง หรือรับประทานยาต่างๆ มากเกินไป
กรณีใดบ้างที่ไม่ ควรรับประทานเห็ดหลิงจือ
ก่อนหรือหลังการ ผ่าตัด 5 วัน
ร่างกายเสียเลือด มาก โดยเฉพาะระยะที่แผลในกระเพาะ มีเลือดออก และเส้นเลือดในสมองแตก
ผู้ป่วยที่ทำการผ่า ตัดเปลี่ยนอวัยวะ
ข้อมูลเกี่ยวกับเห็นหลิงจือ ที่ควรทราบ
เห็ดหลิงจือ ราชาแห่งสมุนไพร สมุนไพรมหัศจรรย์ สวรรค์ประทาน เพื่อปลดปล่อยความทุกข์แด่มวลมนุษยชาติ
นับ แต่โบราณกาล เห็ดหลิงจือ ได้รับการยกย่องให้เป็นเห็ดที่มีคุณค่าที่สุดในการบำรุงรักษาสุขภาพ ในตำราสมุนไพร อันเก่าแก่ที่สุดของแพทย์แผนโบราณจีนได้มีการบันทึกถึงเห็ด หลิงจือว่าเป็น ยอดสมุนไพร อันหมายถึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามี่สุดของยาสมุนไพรจีน
นัก วิทยาศาสตร์จำแนกเห็ดหลิงจือ ให้อยู่ในสกุล กาโนเดอร์ม่า (Famoderma) แบ่งออกเป็นหลายชนิดตามชื่อภาษาลาติน ได้แก่
• Ganodema applanatum [Pers.] Pat. หรือ Fomesapplanatus [Pers.] Wallr.
• Ganoderma lucidum [Leys.ex Fr.]Karst
• Ganoderma sinensis Zhao.Xu et Zhang หรือ Ganoderma japonicum sensu Teng
• Ganoderma tehue Zhao.Xu et Zhang
• Ganoderma tropicum [Jungh.] Bres.
• Ganoderma tusgae Murr.
ใน ประเทศจีนนับตั้งแต่โบราณกาล ได้มีการรวบรวมตำรายาจากผู้รอบรู้และแพทย์จีนโบราณ โดยในตำรา ดังกล่าวได้รวบรวมยาไว้ 365 ชนิด แบ่งเป็นยาชั้นสูง ชั้นกลาง และชั้นต่ำ
โดยยาชั้นสูง 120 ชนิดเป็นยาที่ไม่มีพิษหรือ มีพิษน้อยมา สามารถรบประทานต่อเนื่องระยะยาวได้โดยไม่เป็นอันตราย เห็ดหลิงจือ ได้ถูกรวมไว้ในจำพวกยาชั้นสูง ถึง 6 ชนิด โดยอาศัยสีที่แตกต่างกัน ได้แก่ เห็ดหลิงจือดำ เห็ดหลิงจือแดง เห็ดหลิงจือเขียว เห็ดหลิงจือขาว เห็ดหลิงจือเหลือง และเห็ดหลิงจือม่วง
ธรรมชาติ ของเห็ดหลิงจือค่อนข้างแปลกจากเห็ดทั่วไป
เห็ดชนิดอื่น ๆ เมื่อขาดอาหารจะหยุดการเจริญเติบโตและตายไปในที่สุด เห็ดหลิงจือ เมื่อขาดอาหาร จะหยุดการเจริญเติบโตไว้ชั่วคราว รอจนมีน้ำ และอาหารที่สมบูรณ์เห็ดก็เจริญเติบโตได้ ดังนั้นเห็ดหลิงจือจึงมีอายุยืนถึง 10 ปีขึ้นไป โดยทั่วไปเห็ดหลิงจือจะมีโครงสร้างที่แข็งแรงมาก เมื่อเล็กจะมีสีเหลืองอ่อน เมื่อเจริญเติบโตจะมีสีเข้มขึ้น คือค่อย ๆ เปลี่ยนสีไปตามสายพันธุ์ ถึงแม้เห็ดหลิงจือจะอยู่ในพืชตระกูลเห็ดก็จริง แต่เห็ดหลิงจือมีความพิเศษ เป็นเห็ดเนื้อแข็ง ไม่สามารถนำมาปรุงอาหารได้
คุณภาพของ เห็ดหลิงจือ
เห็ดหลิงจือสกัดในรูปแบบต่างๆคุณภาพของเห็ดขึ้นอยู่กับ แหล่งที่มาของดอกเห็ด และเทคโนโลยีในการผลิต ซึ่งคุณภาพโดยทั่วไปขึ้นอยู่กับปัจจัย
1.สายพันธุ์
2.อายุ
3.แหล่ง อาหารที่เห็ดได้รับ
4.สถานที่เพาะปลูก
สารออก ฤทธิ์ของเห็ดหลิงจือ
เป็นเวลานอนกว่า 30 ปี ที่แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ในจีน เกาหลี ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา และประเทศต่างๆได้ทำการศึกษาถึงสารออกฤทธิ์และสรรพคุณทางยาของเห็ดหลิงจือ โดยการตรวจสอบโครงสร้างทางเคมี การทดลองในห้องปฏิบัติการ ประเทศญี่ปุ่นเป็นชาติแรกที่นักวิจัยได้เผยแพร่รายงานการค้นพบองค์ประกอบทาง เคมีของเห็ดหลิงจือ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามากกว่า 150 ชนิด และพอจะจำแนกสารออกฤทธิ์ได้ดังนี้
ออร์แกนิค เจอร์แมเนียม (จีอี) [Organic Germanium [Ge]]
สารอินทรีย์เจอร์แมเนียม เป็นสารที่เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับออกซิเจนของเม็ดเลือดแดงกว่า 1.5 เท่า เป็นการสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่า ชะลอความแก่ จากการวิจัย ของ ดร.คาซุฮิโคะ อาซาอิ ผู้ค้นพบเจอร์แมเนียม ได้รายงานไว้ว่าเห็ดหลิงจือมีสารอินทรีย์เจอร์แมเนียมสูง 800-2000 พีพีเอ็ม มากกว่าโสม 4-6 เท่า
โพลินแซ็กคาไรด์ (Polysaccharide)
สามารถ เพิ่มประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันโรค กำจัดไวรัส ซึ่งโรงงานเภสัชกรรมของญี่ปุ่นหลายแห่งได้ทำการผลิตเป็นยาได้สำเร็จและได้ รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขของประเทศญี่ปุ่น
ไตรเทอร์พีนอยด์
ช่วย ต้านสารพิษ บำรุงตับ ช่วยยับยั้งการหลั่งสารฮีสตามีน ตัวทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง
รสขม
ขณะนี้วงการเภสัช ญี่ปุ่นกำลังอยู่ระหว่างการวิจัย ถึงแม้ว่าบรรดาพืชต่างๆจะมีสารอินทรย์เจอร์แมเนียม หรือสารโพลิเซ้กคาไรด์ก็ตาม แต่ทว่าพืชที่มีสารดังกล่าวนี้ก็จะมีเพียงชนิดหนึ่งชนิดใดเท่านั้น ไม่มีสาร
ทั้งสองชนิดรวมกัน ดังนั้นเห็ดหลิงจือจึงเป็นพืชพิเศษที่มีความมหัศจรรย์อันล้ำค่า
คุณค่า ทางโภชนาการ สารประกอบสำคัญของเห็ดหลิงจือมีดังนี้
โปรตีน ไขมัน เส้น ใย เถ้า น้ำตาล แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เหล็ก แมกนีเซียม นาเตรียม เคล เลียม อินโนซิทอล
วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 โคลีน โพลิ แซ็กคาไรด์ เจอร์แมเนียม
คุณสมบัติ ของสารเคมีต่าง ๆที่มีอยู่ในเห็ดหลิงจือ
สรรพคุณ สารเคมี
1. การ ป้องกันตับ Ganoderic Acid R
2. การแก้ปวด Adenosine
3. การ บำรุงหัวใจ Polysacharides, Alkaloids
4. การปรับความ ดัน Ganoderol Ganoderic Acid
5. การเสริมระบบภูมิคุ้มกันโรค Polysaccharides, Protien
6. การควบคุมมะเร็ง Ganoderic Acid, Glucan
7. การแก้แพ้ Ganoderic Acid, Cyclooclasulfer
8. การลด ไขมันในเลือด Ganoderic Acid
9. การลดน้ำตาลในเลือด Ganoderans
10. การ ลดการอักเสบ Glucan
11. การลดการจับตัวของเกล็ดเลือด Adenosine
12. การส ร้าง Enterferon RNA
13. การสร้างโปรตีน Polysaccharides
14. การป้องกันรังสี Polysaccharides
จากการ ทดสอบโดยการรักษาคนไข้ของ ดร.ซิเรงุ ยูจิ พบว่า เห็ดหลิงจือสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บหลากหลาย ชนิด โดยเห็ดหลิงจือมีประสิทธิภาพดังต่อไปนี้
• ลดคอเลสเตอรอล ไขมันในเส้นเลือด
• ลดน้ำตาลในเส้นเลือด เพิ่มประสิทธิภาพของตับอ่อน
• ปรับ สภาพเยื่อหุ้มเม็ดเลือดแดงให้มั่นคง
• เพิ่มสมรรถนะของต่อมหมวกไต เพื่อให้มีภาวะสมดุลของสารหลั่งจากต่อมไร้ท่อ
• สามารถเพิ่มภูมิคุ้มกัน โรคให้กับร่างกายมากขึ้น
• ป้องกันความเสื่อมของเซลล์เนื้อเยื่อ
• ชะลอ สภาพร่างกายให้ลดอัตราการแก่ตัวลง ปรับสภาพร่างกายให้คงความเป็นหนุ่มสาว
• ลด ผลข้างเคียงของยาที่ใช้ในการรักษาความดันโลหิตสูง
• ป้อนกันการเสื่อม สลายของอวัยวะภายในร่างกาย
• บำรุงหัวใจ ม้าม กับ ปอด ไต การสูบฉีดของหัวใจ หลอดเลือด
• ฟอกเลือด บำรุงร่างกาย ช่วยให้นอนหลับสบาย รักษาโรคประสาท อาการทางจิต ช่วยให้มีชีวิตชีวา หลอดลมอักเสบ หืดหอบ
• แก้ปวดตามข้อ บำรุงเอ็น กระดูก บำรุงประสาท
• ลด ความดันโลหิตสูง (ไม่มีผลต่อคนที่มีความดันปกติหรือความดันต่ำ) ลดปริมาณน้ำตาล
• ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย รักษาอาการภูมิแพ้ต่างๆ
• ช่วยป้องกันการถูกทำลายของตับ ยับยั้งการหลั่งของฮีสตามีน
• ช่วยเปลี่ยนสารพิษในร่างกาย ให้เป็นสารที่มีประโยชน์
• ป้องกันการแพ้สารต่างๆ โดยไปกดการหลั่งสารอีสตามิน
• ป้องกันมะเร็ง สกัดการกระจายของเชื้อมะเร็ง โดย
-มีประสิทธิภาพปรับสภาพร่างกายให้คง สภาพเดิม ป้องกันความเสื่อมสลายของเซลล์เนื้อเยื่อ
-มีประสิทธิภาพ ป้องกันผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ที่อาจเสียชีวิตจากการอุดตันของลิ่มเลือด
-สามารถ ควบคุมสภาพที่เป็นลิ่มเลือด สลายลิ่มเลือดที่เกาะตามผนังเส้นเลือด สลายสารที่ป้องกันยาที่เข้าไปรักษาโรคมะเร็งเพื่อให้ยาที่เข้าไปรักษาโรค มะเร็งมีประสิทธิภาพเต็มที่
-สามารถขจัดความเจ็บปวดอันเกิดจากโรคมะเร็ง
วิธี กินหลิงจือให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดมี 2 วิธี
1. สกัด2. ต้ม
ฉะนั้น จึงไม่แนะนำให้กินเห็ดหลิงจือ “ชนิดบด” เพราะหลิงจือเป็นพืช “เนื้อแข็ง” กระเพาะอาหารไม่สามารถย่อยสลายได้ จึงทำให้ไม่ได้รับสารที่เป็นประโยชน์ทางยาเท่าที่ควร ทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาได้ผลลดน้อยลง
เห็ดหลิงจือที่มีวางจำหน่ายมี มากมายหลายยี่ห้อ คุณภาพทางยามากหรือน้อยขึ้นอยู่กับคุณภาพของเห็ด และขั้นตอนการผลิตของใครจะมีกรรมวิธีที่ได้มาตรฐาน และมีความเชี่ยวชาญมากกว่าเป็นหลัก
หมายเหตุ กินหลิงจือร่วมกับวิตามินซีจะทำให้การดูดซึมผ่านผนังลำไส้ได้ดียิ่งขึ้น
วิธี การทดสอบหลิงจือสกัด – บด
ใช้น้ำสะอาด 2 แก้ว เติมน้ำเท่ากัน แกะแคปซูลทั้ง 2 ชนิด ลงในแก้วน้ำที่เตรียมไว้ คนให้ละลาย ทิ้งไว้ 2-3 นาที ก็จะสังเกตุได้
ถ้าเป็นหลิงจือสกัด น้ำในแก้วจะใสสะอาดออกสีน้ำตาล มีกลิ่นหอมของหลิงจือ
ถ้าเป็นหลิงจือบด น้ำจะขุ่นข้น มีกากเห็ดนอนก้น สีเนื้ออ่อน มีกลิ่นไม่สะอาด กลิ่นสาปเล็กน้อย

.jpg)














|
ยินดีด้วยกับคุณ Sopee ด้วยนะครับที่น้องเค้าอาการดีขึ้นแล้ว ถ้าต้องการทานเพื่อบำรุ่งร่างกาย และเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับน้อง วันละ 1ก็พอครับ ทานช่วงก่อนนอน หรือก่อนอาหารมื้อเช้า ซัก 20-30 นาที ถ้าวันไหนที่ไม่ค่อยสบาย ก็เพิ่มเป็นวันละ 2-4 เม็ดได้ครับชงดื่มเหมือนชา ถ้ากลัวน้องขม เติมน้ำผึ้งเพิ่มได้ครับ ทานครั้งละเม็ด เว้นช่วง 4-6 ชม. ครั้งครับ
ทานไปนาน ๆ จะเกิดการสะสมและเป็นอันตรายมั้ย หลินจือสกัดแท้เกรดยา (ในประเทศไทยมีหลิงจือสกัดไม่กียี่ห้อที่จดทะเบียนเป็นยาแผนโบราณ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด จะจดทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และ ฮ
เคเค เนเจอรัล หลิงจือ จดทะเบียนเป็นยาแผนโบราณ) จะมี สเตียรอยด์ ธรรมชาติ ที่ร่างกายขับออกได้ จึงไม่มีการตกค้างหรือสะสมในร่างกายครับ